แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี

แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

ทุกปีเวลาทำงานประจำหรือมีรายได้ เราต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ก่อนจะคำนวณยอดภาษีสุดท้าย รัฐเปิดโอกาสให้เราลดหย่อนภาษีได้ผ่านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่เรียกว่า แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี

พูดง่าย ๆ คือ เป็นขั้นตอนที่เราต้อง แจ้งข้อมูล ให้สรรพากรหรือให้นายจ้างทราบว่า เรามีสิทธิ์ลดหย่อนอะไรบ้าง เช่น มีคู่สมรส มีลูก มีประกันชีวิต ซื้อกองทุน SSF RMF หรือดูแลพ่อแม่ ถ้าไม่แจ้งไว้ก่อนสิ้นปี ระบบจะไม่หักลดหย่อนให้เราโดยอัตโนมัติ ทำให้เสียภาษีเกินกว่าที่ควรจะเป็น

แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี แจ้งที่ไหน

สำหรับพนักงานประจำ ส่วนใหญ่จะต้องแจ้งสิทธิฯ ผ่านฝ่าย HR หรือนายจ้าง โดยมักใช้แบบฟอร์มที่เรียกว่า “แบบฟอร์มแจ้งข้อมูลเพื่อคำนวณภาษี ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 91)” หรือแบบออนไลน์ที่บริษัทจัดไว้

ส่วนคนที่เป็นฟรีแลนซ์ เจ้าของกิจการ หรือผู้มีรายได้อิสระ จะต้องแจ้งสิทธิฯ ตอนยื่นภาษีด้วยตัวเอง ผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร บนเว็บไซต์ www.rd.go.th

ไม่ว่าจะช่องทางไหน สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมเอกสารให้ครบและแจ้งให้ตรงกับความจริง เพราะสรรพากรสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี ต้องทำเมื่อไหร่

สำหรับพนักงานบริษัท ต้องแจ้งสิทธิฯ ก่อนสิ้นปีภาษี ซึ่งโดยทั่วไป HR จะประกาศช่วงเดือน พฤศจิกายนถึงธันวาคม ให้ทุกคนกรอกข้อมูลใหม่ เพื่อใช้คำนวณภาษีปลายปี ส่วนผู้ที่ยื่นเอง สามารถแจ้งสิทธิฯ ได้ตอนยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ 91 ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป เช่น รายได้ปี 2567 ต้องแจ้งสิทธิและยื่นภาษีภายใน 31 มีนาคม 2568

แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง

สิทธิลดหย่อนมีหลายประเภทมาก ลองมาดูหมวดหลัก ๆ ที่คนมักใช้กัน

  1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว

ทุกคนที่มีรายได้จะได้สิทธินี้โดยอัตโนมัติ

  • ลดหย่อนได้ 60,000 บาท ต่อปี
  1. ค่าลดหย่อนคู่สมรส

ถ้ามีคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ (หรือมีรายได้แต่ไม่เกินเกณฑ์ภาษี) สามารถใช้สิทธินี้ได้

  • ลดหย่อนได้ 60,000 บาท
  1. ค่าลดหย่อนบุตร

ลูกคนละ 30,000 บาท ต่อปี และถ้ามีลูกเรียนในระบบการศึกษาไทย ยังลดได้เพิ่มอีก 2,000 บาทต่อลูกหนึ่งคน

  • ลูกต้องอายุไม่เกิน 20 ปี หรือ 25 ปีถ้ายังเรียนอยู่
  1. ค่าลดหย่อนบิดามารดา

ถ้าดูแลพ่อแม่ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี

  • ลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคน
    (ถ้าดูแลทั้งพ่อและแม่ ก็ลดได้รวม 60,000 บาท)
  1. เบี้ยประกันชีวิต

อีกหนึ่งสิทธิที่หลายคนชอบใช้ เพราะช่วยทั้งออมเงินและลดภาษี

  • เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
  • แต่ต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีอายุคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
  1. ประกันสุขภาพ

ตอนนี้ภาครัฐอนุญาตให้ใช้ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท และสามารถใช้ร่วมกับประกันชีวิตได้ แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท

  1. กองทุน SSF RMF

เครื่องมือออมระยะยาวที่ช่วยลดภาษีได้มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง

  • SSF (Super Savings Fund) ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อปี สูงสุด 200,000 บาท
  • RMF (Retirement Mutual Fund) ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อปี รวมกับกองทุน SSF ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

ถือเป็นสิทธิที่คุ้มมาก โดยเฉพาะคนที่ออมอยู่แล้ว

  1. ประกันสังคม

คนที่เป็นพนักงานบริษัท จะถูกหักเข้ากองทุนประกันสังคมอัตโนมัติ

  • สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี
  1. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม สามารถสมัคร กอช. และใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 13,200 บาทต่อปี

  1. ดอกเบี้ยบ้าน

สำหรับผู้ที่มีบ้าน และผ่อนอยู่ สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้มาลดหย่อนภาษีได้

  • ลดได้สูงสุด 100,000 บาท ต่อปี
  1. เงินบริจาค

บริจาคให้กับมูลนิธิ โรงเรียน โรงพยาบาล หรือองค์กรการกุศลที่จดทะเบียนกับสรรพากร

  • ลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่น ๆ
  • บริจาคให้พรรคการเมืองลดได้สูงสุด 10,000 บาท

ทำไมต้องรีบแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี

เพราะถ้าแจ้งช้า หรือไม่แจ้งเลย ภาษีที่ถูกหักไว้จะ “ไม่ลดตามสิทธิ์ของเรา” ทำให้เราจ่ายภาษีเกินโดยไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจมีสิทธิ์ลดหย่อนจากประกันชีวิตและกองทุนรวม 100,000 บาท แต่ไม่ได้แจ้งนายจ้าง HR ก็จะคำนวณภาษีจากรายได้เต็มจำนวน ส่งผลให้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายมากเกินจริง ถึงจะสามารถขอคืนภาษีตอนยื่นภาษีปลายปีได้ แต่ก็เสียเวลารอ และบางคนก็อาจพลาดเอกสารจนไม่ได้คืน

วิธีเตรียมเอกสารแจ้งสิทธิ

ก่อนแจ้งสิทธิทุกปี ควรเตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น

  • สำเนาบัตรประชาชนของพ่อแม่ (ถ้าขอลดหย่อน)
  • สูติบัตรลูก
  • ใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ
  • ใบรับรองการลงทุนในกองทุน RMF SSF
  • เอกสารแสดงดอกเบี้ยบ้านจากธนาคาร
  • หนังสือรับรองการบริจาค

การเก็บเอกสารให้ครบ จะช่วยป้องกันปัญหาเวลาสรรพากรตรวจสอบย้อนหลัง

แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีผ่านระบบออนไลน์

ตอนนี้กรมสรรพากรมีระบบให้แจ้งสิทธิออนไลน์ผ่าน e-Filing บนเว็บไซต์ www.rd.go.th ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องกรอกกระดาษ

  • ล็อกอินเข้าสู่ระบบ
  • กรอกข้อมูลส่วนตัว
  • เลือกสิทธิลดหย่อนที่ต้องการ
  • อัปโหลดไฟล์เอกสารประกอบ (ถ้ามี)
  • ตรวจสอบยอดสิทธิทั้งหมดก่อนส่ง

ระบบจะคำนวณยอดลดหย่อนให้อัตโนมัติ และนำไปใช้ตอนยื่นภาษีเลย

เทคนิคจัดการสิทธิลดหย่อนให้คุ้มที่สุด

  1. วางแผนตั้งแต่ต้นปี ไม่ใช่รอปลายปีแล้วรีบหาซื้อกองทุนหรือประกัน
  2. อย่าใช้สิทธิเกินเพดาน เช่น ซื้อกองทุน SSF เกิน 200,000 บาท ก็ลดหย่อนได้เท่าที่กำหนดเท่านั้น
  3. ใช้สิทธิตามจริง อย่าลดซ้ำซ้อน เช่น คู่สมรสทั้งสองฝ่ายหักลูกคนเดียวพร้อมกันไม่ได้
  4. ตรวจสอบยอดภาษีก่อนยื่น เพราะระบบจะคำนวณอัตโนมัติ แต่เราควรเช็กอีกครั้งว่าใช้สิทธิครบหรือยัง

ข้อควรระวังเมื่อแจ้งสิทธิ

  • เอกสารปลอม หรือลดหย่อนเกินจริงมีความผิดตามกฎหมาย
  • ห้ามแจ้งสิทธิเกินเพดานที่กำหนด
  • หากเปลี่ยนสถานะ เช่น แต่งงาน มีลูก หรือเลิกจ้าง ต้องอัปเดตข้อมูลใหม่ทุกปี

สรุป การแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี

การ แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิทธิ์ตามกฎหมายที่ช่วยให้เราจ่ายภาษีน้อยลงอย่างถูกต้อง ไม่ใช่การเลี่ยงภาษี แต่เป็นการใช้สิทธิ์ที่รัฐให้มาอย่างคุ้มค่า

แค่เตรียมเอกสารให้ครบ แจ้งสิทธิกับ HR หรือกรอกออนไลน์ให้เรียบร้อย คุณก็สามารถประหยัดเงินได้หลายพัน หรือบางคนถึงขั้นได้เงินภาษีคืนเป็นหมื่นบาทเลยทีเดียว อย่าปล่อยให้สิทธิ์ของคุณหายไปกับความลืม เพราะเงินที่ได้คืนก็เป็นของคุณเหมือนกัน Gocprime

บทความอื่นๆ

หุ้นไทยเบื้องต้น

หุ้นไทยเบื้องต้น คู่มือเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนอยากรวยอย่างมั่นคง

หุ้นไทยเบื้องต้น คู่มือเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนอยากรวยอย่างมั่นคง ตลาดหุ้นไทยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก ผ่านโ

อ่านต่อ »
หุ้นสำหรับมือใหม่

หุ้นสำหรับมือใหม่ จุดเริ่มต้นของโลกการลงทุน

หุ้นสำหรับมือใหม่ จุดเริ่มต้นของโลกการลงทุน ถ้าพูดคำว่าหุ้น หลายคนอาจนึกถึงภาพคนถือโทรศัพท์กดซื้อขายทั้งวัน หรือหน้าจอที่เต็มไปด้วยตัวเลขสีแ

อ่านต่อ »
เรียนรู้หุ้น

เรียนรู้หุ้น จากศูนย์เริ่มยังไงให้เข้าใจเร็ว

เรียนรู้หุ้น จากศูนย์เริ่มยังไงให้เข้าใจเร็ว คำว่า หุ้น อาจฟังดูซับซ้อนสำหรับคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน แต่จริง ๆ แล้วการ เรียนรู้หุ้น ไม่ได้ยาก

อ่านต่อ »