หุ้น 7 ประเภท

รู้จักหุ้น 7 ประเภท เข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่

ถ้าเพิ่งเริ่มเข้ามาในโลกของการลงทุน หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ หุ้นมีกี่ประเภท จริง ๆ แล้วมีหลายวิธีแบ่ง แต่แบบที่เข้าใจง่ายและใช้จริงที่สุดก็คือการแบ่งออกเป็น หุ้น 7 ประเภท แต่ละแบบมีเอกลักษณ์และจริตของนักลงทุนที่เหมาะกันต่างกันไป

การรู้จักหุ้นแต่ละประเภท ช่วยให้คุณจัดพอร์ตได้สมดุล ไม่ต้องกลัวว่าพอหุ้นตัวหนึ่งตก แล้วพอร์ตจะพังทั้งแผง พร้อมไหม มาดูทีละแบบกันเลย

หุ้นเติบโต (Growth Stock)

หุ้นเติบโต เป็นหุ้นที่เน้นการขยายตัวของรายได้และกำไรในอนาคต บริษัทเหล่านี้มักอยู่ในช่วงขยายกิจการ เช่น เทคโนโลยี พลังงานใหม่ หรือบริการออนไลน์

ข้อดีคือ ถ้าบริษัทเติบโตจริง ราคาหุ้นก็จะขึ้นแรงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด แต่ข้อเสียคือ ราคามักแพง เพราะนักลงทุนมองอนาคตไว้ล่วงหน้า

ถ้าเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้ อยากเห็นผลตอบแทนสูงในระยะยาว หุ้นเติบโตเหมาะมาก แต่ควรศึกษาธุรกิจให้เข้าใจจริง เพราะบางที หุ้นที่ดูโต อาจแค่ hype ชั่วคราวก็ได้

หุ้นปันผล (Dividend Stock)

หุ้นปันผลสูง คือหุ้นของบริษัทที่มีกำไรมั่นคง และจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นสม่ำเสมอ นักลงทุนที่เน้นความมั่นคง มักชอบหุ้นกลุ่มนี้

แม้ราคาหุ้นจะไม่หวือหวาเหมือนหุ้นเติบโต แต่รายได้ปันผลช่วยสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่อยาก ลงทุนเพื่อเกษียณ หรือมีรายได้เสริมระหว่างรอราคาขึ้น

ตัวอย่างคือ หุ้นธนาคาร หุ้นสื่อสาร หรือหุ้นโรงไฟฟ้า ถ้าเปรียบกับอาหาร หุ้นปันผลก็เหมือนข้าวสวยร้อน ๆ ที่กินได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ

หุ้นคุณค่า (Value Stock)

หุ้นคุณค่า คือหุ้นที่ราคาตลาด ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง นักลงทุนแนวนี้จะมองหาเพชรในตม บริษัทที่พื้นฐานดี แต่ตลาดยังไม่เห็นคุณค่า

แนวคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Warren Buffett เขามักพูดว่า จงซื้อธุรกิจดีในราคายุติธรรม ดีกว่าซื้อธุรกิจธรรมดาในราคาดี

หุ้นคุณค่าอาจใช้เวลานานกว่าตลาดจะรับรู้ แต่ผลตอบแทนเมื่อถึงวันนั้น มักคุ้มค่ามาก เหมาะกับคนที่ใจเย็น ไม่กลัวถือยาว

หุ้นขนาดเล็ก (Small Cap Stock)

หุ้นขนาดเล็ก หรือ หุ้นเล็ก คือหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดไม่สูงมาก ข้อดีคือมีโอกาสเติบโตสูง เพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มขยายธุรกิจ แต่ก็เสี่ยงกว่า เพราะมีความผันผวนสูงและสภาพคล่องต่ำ บางทีราคาขึ้นหรือลงแรงเพราะแค่ข่าวเล็ก ๆ ข่าวเดียว

เหมาะกับคนที่ชอบเสี่ยงหน่อย และมีเวลาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ถ้าเลือกถูกตัว หุ้นเล็กอาจกลายเป็นดาวรุ่งในพอร์ตได้เลย

หุ้นป้องกันความเสี่ยง (Defensive Stock)

หุ้นป้องกันความเสี่ยง คือหุ้นที่ราคามักไม่แกว่งแรง แม้เศรษฐกิจจะผันผวน เช่น หุ้นกลุ่มอาหาร ยา หรือสาธารณูปโภค เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี คนก็ยังต้องกิน ต้องใช้ หุ้นกลุ่มนี้จึงช่วยพยุงพอร์ตในช่วงตลาดขาลง

นักลงทุนมืออาชีพมักใช้หุ้นแบบนี้เป็น “กันชน” เวลาตลาดมีความเสี่ยงสูง ถือไว้สัก 20–30% ในพอร์ต ช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะ

หุ้นเก็งกำไร (Speculative Stock)

หุ้นเก็งกำไร เหมาะกับสายลุย สายเทรดที่อยากได้กำไรระยะสั้น ราคาขึ้นเร็ว แต่ก็อาจลงแรงได้เหมือนกัน ปัจจัยขับเคลื่อนส่วนใหญ่คือ ข่าว และ กระแส มากกว่าพื้นฐานจริง ถ้าเข้าเร็วออกเร็ว มีวินัย และบริหารความเสี่ยงดี ก็อาจได้กำไรสูง แต่ถ้าเผลอถือยาวโดยไม่ตั้งจุดขาย ก็อาจขาดทุนหนักได้เหมือนกัน หุ้นแบบนี้ต้องมี ใจนิ่งและแผนแน่น

หุ้นต่างประเทศ (International Stock)

สุดท้ายคือ หุ้นต่างประเทศ ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงจากตลาดในประเทศ อย่างเช่น หุ้นอเมริกา หุ้นจีน หรือหุ้นเวียดนาม

ข้อดีคือ ได้เปิดโลกการลงทุนสู่ธุรกิจระดับโลก เช่น Apple, Microsoft, Tesla แต่ก็มีความเสี่ยงด้านค่าเงินและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ควรเข้าใจไว้

เหมาะกับนักลงทุนที่อยากกระจายพอร์ตให้หลากหลาย เพราะบางทีตลาดไทยอาจนิ่ง แต่ต่างประเทศกำลังบูม

เคล็ดลับเลือกหุ้นให้เหมาะกับตัวเอง

รู้จัก หุ้น 7 ประเภท แล้ว สิ่งสำคัญคือเลือกให้ตรงกับเป้าหมาย และนิสัยการลงทุนของตัวเอง ถ้าเป็นคนใจเย็น มองระยะยาว หุ้นปันผลหรือหุ้นคุณค่าอาจเหมาะ แต่ถ้าชอบความตื่นเต้น สนใจข่าวและจังหวะตลาด หุ้นเติบโตหรือเก็งกำไรก็เป็นทางเลือกที่ดี

อย่าลืม กระจายความเสี่ยง โดยผสมหุ้นหลายประเภทเข้าด้วยกัน เช่น 40% หุ้นเติบโต, 30% หุ้นปันผล, 20% หุ้นป้องกันความเสี่ยง และ 10% หุ้นเก็งกำไร แบบนี้พอร์ตจะทั้งเติบโตและมั่นคงในเวลาเดียวกัน

จุดที่นักลงทุนมือใหม่มักพลาด

หลายคนเริ่มลงทุนโดยไม่เข้าใจว่า หุ้นที่ตัวเองซื้อจัดอยู่ในประเภทไหน ผลคือคาดหวังผิด เช่น ซื้อหุ้นเติบโตแต่หวังปันผล หรือซื้อหุ้นเล็กแต่ใจไม่ถึง ก่อนจะซื้อหุ้นตัวไหน ลองถามตัวเองก่อนว่า หุ้นนี้อยู่ในกลุ่มไหนของ หุ้น 7 ประเภท ถ้าตอบได้ คุณจะเข้าใจพฤติกรรมของหุ้นนั้นมากขึ้น และวางแผนได้แม่นกว่าเดิม

สรุป ภาพรวมของหุ้น 7 ประเภท

  • หุ้นเติบโต เน้นการขยายกำไรระยะยาว
  • หุ้นปันผลสูง เน้นรายได้สม่ำเสมอ
  • หุ้นคุณค่า เน้นซื้อของดีราคาถูก
  • หุ้นขนาดเล็ก โอกาสสูงแต่เสี่ยงมาก
  • หุ้นป้องกันความเสี่ยง พอร์ตนิ่งในช่วงตลาดตก
  • หุ้นเก็งกำไร สำหรับคนชอบจังหวะ และความเร็ว
  • หุ้นต่างประเทศ ช่วยกระจายความเสี่ยง และเปิดโลกใหม่

การเข้าใจหุ้นเหล่านี้ จะช่วยให้คุณไม่หลงทิศเวลาตลาดผันผวน เพราะคุณรู้ว่าตัวเองถืออะไร และถือไปเพื่ออะไร การลงทุนไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือการเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังทำ เมื่อคุณรู้จัก หุ้น 7 ประเภท และสามารถเลือกให้เหมาะกับจริตของตัวเองได้ คุณก็พร้อมจะสร้างพอร์ตที่เติบโตอย่างมั่นคง อย่าลืมติดตามข่าวสาร ศึกษาข้อมูล และปรับพอร์ตเป็นระยะ เพราะโลกการลงทุนไม่มีอะไรหยุดนิ่ง Gocprime

บทความอื่นๆ

หุ้นไทยเบื้องต้น

หุ้นไทยเบื้องต้น คู่มือเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนอยากรวยอย่างมั่นคง

หุ้นไทยเบื้องต้น คู่มือเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนอยากรวยอย่างมั่นคง ตลาดหุ้นไทยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก ผ่านโ

อ่านต่อ »
หุ้นสำหรับมือใหม่

หุ้นสำหรับมือใหม่ จุดเริ่มต้นของโลกการลงทุน

หุ้นสำหรับมือใหม่ จุดเริ่มต้นของโลกการลงทุน ถ้าพูดคำว่าหุ้น หลายคนอาจนึกถึงภาพคนถือโทรศัพท์กดซื้อขายทั้งวัน หรือหน้าจอที่เต็มไปด้วยตัวเลขสีแ

อ่านต่อ »
เรียนรู้หุ้น

เรียนรู้หุ้น จากศูนย์เริ่มยังไงให้เข้าใจเร็ว

เรียนรู้หุ้น จากศูนย์เริ่มยังไงให้เข้าใจเร็ว คำว่า หุ้น อาจฟังดูซับซ้อนสำหรับคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน แต่จริง ๆ แล้วการ เรียนรู้หุ้น ไม่ได้ยาก

อ่านต่อ »