ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ เรื่องที่นักลงทุนทุกคน ต้องเข้าใจ

ลงทุนหุ้นต่างประเทศ อย่างไรให้โอกาสเติบโตมากขึ้น

หลายคนเริ่มสนใจ การลงทุนหุ้นต่างประเทศ เพราะมองว่าเป็นโอกาส ให้เงินทำงานได้มากกว่าในตลาดบ้านเรา แต่ในโลกการลงทุนไม่มีอะไรได้มาฟรี ทุกโอกาสย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ที่อาจแตกต่างจากการลงทุนในประเทศพอสมควร ถ้าเราไม่ศึกษาให้ดี อาจเจ็บตัวหนักได้เลย

ทำไมถึงต้องสนใจ เรื่องความเสี่ยงเป็นพิเศษ

เพราะตลาดต่างประเทศ มีปัจจัยหลายอย่างที่เราไม่คุ้นเคย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง กฎหมายภาษี รวมถึงสภาพตลาดที่ผันผวนมากกว่า ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจกระทบพอร์ตเราได้ทันที แม้บริษัทที่เราลงทุนจะยังทำกำไรได้อยู่ก็ตาม

ประเภทของ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

  1. ความเสี่ยง จากอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk)

นี่คือความเสี่ยง ที่นักลงทุนต่างประเทศหนีไม่พ้น สมมติเราลงทุนในหุ้นสหรัฐ ถ้าดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท ต่อให้หุ้นเราได้กำไร พอแปลงกลับมาเป็นเงินบาทก็อาจเหลือกำไรน้อย หรือถึงขั้นขาดทุนได้ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาเสมอ

ตัวอย่าง

  • ซื้อหุ้น Apple ที่ $150 ต่อหุ้น ตอนดอลลาร์อยู่ที่ 35 บาท/ดอลลาร์

  • หุ้นขึ้นเป็น $160 แต่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงเหลือ 33 บาท/ดอลลาร์

  • กำไรจากหุ้นอาจหายไปเกือบหมด เพราะโดนค่าเงินกินกำไร
  1. ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ และการเมือง (Economic & Political Risk)

เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันหมด แต่ปัญหาในประเทศหนึ่งอาจส่งผลแรงไปทั่ว เช่น วิกฤติหนี้ การเปลี่ยนรัฐบาล หรือสงครามการค้า ปัจจัยเหล่านี้ มีผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และราคาหุ้น

ตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น

  • สงครามรัสเซีย–ยูเครน ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปร่วง

  • วิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐปี 2008 ที่กระทบทั้งโลก
  1. ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด (Market Volatility)

ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่มีนักลงทุนสถาบัน และกองทุนขนาดใหญ่ อาจมีความผันผวนรุนแรงในระยะสั้น ข่าวลือ หรือข้อมูลเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ราคาขึ้นหรือลงแรงได้

เคล็ดลับลดผลกระทบ:

  • ใช้กลยุทธ์ทยอยซื้อ ไม่เทเงินทีเดียว

  • ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้เสมอ
  1. ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และภาษี (Legal & Tax Risk)

แต่ละประเทศมีกฎหมาย และภาษีการลงทุนต่างกัน เช่น ภาษีเงินปันผล ภาษีกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain Tax) ถ้าไม่ศึกษา อาจโดนหักภาษีเยอะจนกำไรหาย

สิ่งที่ควรทำ:

  • ศึกษากฎภาษีของประเทศที่ลงทุน

  • เลือกใช้โบรกเกอร์ที่ให้ข้อมูลภาษีครบถ้วน
  1. ความเสี่ยงจากข้อมูล และภาษา (Information & Language Barrier)

นักลงทุนต่างชาติ อาจเจอปัญหาการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก เพราะรายงานประจำปี ข่าว หรือบทวิเคราะห์ อาจใช้ภาษาท้องถิ่น ถ้าอ่านไม่เข้าใจ อาจตีความผิดพลาด และตัดสินใจลงทุนผิดทาง

วิธีจัดการกับ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

  1. กระจายการลงทุน (Diversification)

อย่าทุ่มลงทุนในประเทศเดียว หรือหุ้นตัวเดียว ควรกระจายไปหลายอุตสาหกรรม หลายภูมิภาค เพื่อลดความเสี่ยงที่มาจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง

  1. ใช้กองทุน หรือตราสารที่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedged Fund)

บางกองทุนมีนโยบายป้องกัน ความเสี่ยงจากค่าเงิน เหมาะกับคนที่ไม่อยากกังวล เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมากเกินไป

  1. ศึกษาข้อมูลจากหลายแหล่ง

ติดตามข่าวเศรษฐกิจ การเมือง และอุตสาหกรรมของประเทศ ที่เราลงทุนจากหลายแหล่งข่าว เพื่อให้ได้มุมมองที่รอบด้าน ไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม

  1. ใช้เงินเย็นลงทุน

การลงทุนต่างประเทศ ควรใช้เงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น เพราะตลาดอาจใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าที่คิด

มุมมอง นักลงทุนรุ่นเก๋า

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ในตลาดต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงมากกว่าการหากำไรสูงสุด เพราะเขารู้ว่า การรักษาทุนและอยู่ในเกมได้ยาว ๆ สำคัญกว่าเสี่ยงหมดตัวในดีลเดียว

ตัวอย่างสถานการณ์จริงที่เจอ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

บางครั้ง เรื่องราวจากนักลงทุนคนอื่น จะช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้นกว่าทฤษฎี

เคสที่ 1 กำไรหุ้นหายเพราะค่าเงิน

พี่เอก ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐตั้งแต่ต้นปี ผลงานดีมาก หุ้นขึ้นกว่า 20% แต่ตอนขายแล้วแลกเงินกลับมาเป็นบาท ดอลลาร์ดันอ่อนค่าลง 8% ทำให้กำไรที่เห็นในพอร์ตหายไปเกือบครึ่ง นี่แหละ คือพลังของความเสี่ยง ค่าเงินที่นักลงทุนมองข้ามไม่ได้

เคสที่ 2 เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง

นักลงทุนกลุ่มหนึ่งในญี่ปุ่น เคยลงทุนในหุ้นสายการบินก่อนโควิด เพราะมองว่าการท่องเที่ยวฟื้นตัวดี แต่พอโควิดระบาด หุ้นตกฮวบกว่า 50% ในไม่กี่สัปดาห์ แม้บริษัทจะไม่มีปัญหาก่อนหน้านั้นเลย แต่ปัจจัยภายนอกก็กระแทกเต็มแรง

ปัจจัยที่ทำให้ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ สูงกว่าลงทุนในประเทศ

  1. เวลาตลาด เปิด-ปิด ไม่ตรงกัน
    ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนมาก เปิดตอนกลางคืนตามเวลาไทย เช่น ตลาดสหรัฐเปิด 3 ทุ่มถึงตี 4 ทำให้คนทำงานประจำ ต้องตัดสินใจ ซื้อขาย นอกเวลาปกติ บางครั้งตื่นมา ราคาก็เปลี่ยนไปแล้ว

  2. กฎเกณฑ์ และข้อกำหนดที่ต่างกัน
    เช่น เรื่องการประกาศงบ บางประเทศประกาศปีละ 4 ครั้ง บางประเทศมีการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดน้อยกว่า ถ้าตามไม่ทัน อาจพลาดจังหวะสำคัญ

  3. สภาพคล่อง ในบางหุ้นน้อย
    ไม่ใช่ว่าหุ้นต่างประเทศทุกตัวจะซื้อขายง่าย หุ้นขนาดเล็กในบางประเทศ อาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้เวลาขายอาจต้องขายราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

กลยุทธ์ลด ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แบบจับต้องได้

  1. เริ่มจากตลาดที่เราคุ้นเคยที่สุด

ถ้าเป็นมือใหม่ ควรเริ่มจากตลาดใหญ่ที่มีข้อมูลเยอะ เช่น สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น เพราะมีบทวิเคราะห์และข่าวภาษาอังกฤษมากมาย หาอ่านง่ายกว่าตลาดเล็ก ๆ

  1. จัดพอร์ตแบบ 70-30 หรือ 50-50

การกันสัดส่วนการลงทุน เช่น ลงทุนในประเทศ 70% ต่างประเทศ 30% หรือครึ่งต่อครึ่ง จะช่วยให้เราไม่รับความเสี่ยงต่างประเทศเต็ม ๆ ตั้งแต่แรก

  1. ใช้ Stop Loss อย่างมีวินัย

ตั้งเงื่อนไขไว้ชัดเจน ว่าถ้าขาดทุนกี่เปอร์เซ็นต์จะขาย ไม่หวังให้ราคากลับมาเสมอ เพราะบางครั้งตลาดต่างประเทศใช้เวลาฟื้นตัวเป็นปี

4. ติดตามข่าว ทั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศนั้น

ไม่ต้องเป็นสายข่าวเต็มตัว แต่ควรอัปเดตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อไม่ให้พอร์ตเรากลายเป็นเรือไร้หางเสือ

ทำไมการเข้าใจ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ถึงทำให้เรามีโอกาสชนะมากกว่า

หลายคนมองว่าการลงทุนต่างประเทศ คือการไล่หากำไรสูงสุด แต่จริง ๆ แล้ว การเข้าใจความเสี่ยง และวางแผนป้องกัน คือสิ่งที่ช่วยให้เราอยู่ในตลาดได้ยาวนานกว่า นักลงทุนที่มองแค่ผลตอบแทนสั้น ๆ

เพราะความจริงคือ ตลาดต่างประเทศมีโอกาสทำกำไรสูงก็จริง แต่ถ้าไม่รู้วิธีจัดการความเสี่ยง เราอาจเสียทุนเร็วกว่าที่คิด

เทคนิค เพิ่มความปลอดภัย ก่อนลงสนามจริง

  1. ทดลองลงทุนด้วยบัญชีจำลอง (Paper Trading)
    ใช้แพลตฟอร์ม ที่ให้เทรดจำลองโดยไม่ใช้เงินจริง เพื่อฝึกการดูกราฟ การซื้อขาย และวิเคราะห์ปัจจัย

  2. เริ่มจากจำนวนเงินเล็ก ๆ
    การลองด้วยเงินน้อย จะช่วยให้เราเรียนรู้ตลาด โดยไม่เสี่ยงทุนก้อนใหญ่

  3. ติดตามนักลงทุนมืออาชีพ
    ดูว่าพวกเขามองความเสี่ยงอย่างไร จัดพอร์ตยังไง แล้วนำมาปรับให้เข้ากับสไตล์เรา

สิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่พลาดเกี่ยวกับ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

  • มองข้ามเรื่องภาษี ทำให้กำไรจริงน้อยกว่าที่คิด

  • ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน เพราะคิดว่าผลกระทบไม่มาก

  • ลงทุนในหุ้นที่ไม่มีข้อมูลชัดเจน เพียงเพราะราคาถูก

  • ใช้เงินร้อนลงทุน เพราะหวังรวยเร็ว

สรุป ข้อคิดปิดท้าย

การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจ ความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ให้ถ่องแท้ และเตรียมวิธีรับมือเสมอ เพราะกำไรที่ยั่งยืน มาจากการบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่แค่การหาหุ้นถูก หรือหุ้นกำลังมาแรง คนที่อยู่รอดในตลาดได้ 10–20 ปี ไม่ใช่คนที่เก่งสุด แต่เป็นคนที่รู้จักป้องกันตัว และไม่ให้พอร์ตเสียหายหนัก

บทความอื่นๆ

หุ้นไทยเบื้องต้น

หุ้นไทยเบื้องต้น คู่มือเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนอยากรวยอย่างมั่นคง

หุ้นไทยเบื้องต้น คู่มือเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนอยากรวยอย่างมั่นคง ตลาดหุ้นไทยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก ผ่านโ

อ่านต่อ »
หุ้นสำหรับมือใหม่

หุ้นสำหรับมือใหม่ จุดเริ่มต้นของโลกการลงทุน

หุ้นสำหรับมือใหม่ จุดเริ่มต้นของโลกการลงทุน ถ้าพูดคำว่าหุ้น หลายคนอาจนึกถึงภาพคนถือโทรศัพท์กดซื้อขายทั้งวัน หรือหน้าจอที่เต็มไปด้วยตัวเลขสีแ

อ่านต่อ »
เรียนรู้หุ้น

เรียนรู้หุ้น จากศูนย์เริ่มยังไงให้เข้าใจเร็ว

เรียนรู้หุ้น จากศูนย์เริ่มยังไงให้เข้าใจเร็ว คำว่า หุ้น อาจฟังดูซับซ้อนสำหรับคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน แต่จริง ๆ แล้วการ เรียนรู้หุ้น ไม่ได้ยาก

อ่านต่อ »